เทคนิคทำ SEO 2018 ช่วยสร้างธุรกิจใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

ในปัจจุบัน การทำ SEO โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจออนไลน์ นั้น เป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น และ การเพิ่มจำนวนคนเข้ามาถึงเว็บไซด์ของเรา จากการค้นหา ใน  จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น การทำ SEO จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้เว็บไซด์ของคุณ มีโอกาสขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆ ของการค้นหา และถ้าเว็บไซด์ของคุณ มีการอัพเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการ เพิ่มคำ keyword พร้อม เนื้อหาใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมเข้าไป ก็จะทำให้คุณมีโอกาสติดอันดับต้นๆ ของการค้นหาบน Google ได้ไม่ยาก อย่างที่คิด

และนี่คือ 10 ปัจจัยสำคัญ ที่จำเป็นต่อการเพิ่มอันดับ SEO ของคุณ

1. Content (เนื้อหาบนเว็บ)

ในบรรดาปัจจัยทั้งหมด เนื้อหา หรือ Content ก็ยังคงมีความสำคัญมากที่สุด ต่อการจัดอันดับ ของ Google โดย Google จะดูถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหา มากกว่า การใส่ใจ เรื่อง keyword ว่าจะมีแทรกอยู่ในบทความหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ถ้า content ที่เขียนนั้น มีเนื้อหาที่ยาว, ละเอียด และสามารถบอกเล่าข้อมูลต่างๆได้ดี ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะติดอันดับต้นๆ

ตัวอย่างคอนเท้นดีๆ

2. Mobile Friendly User (ความคล่องตัวในการเข้าเว็บผ่านมือถือ)

ทุกวันนี้ การเข้าถึงเว็บไซด์นั้น สามารถเข้าผ่านได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเข้าผ่านทาง คอมพิวเตอร์ธรรมดา,โน้ตบุ๊ก หรือแม้กระทั่ง โทรศัพท์มือถือ (smart-phone) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เราแทบทุกคนขาดไม่ได้ และ ถ้าบริษัทสามารถทำ เว็บไซด์ ให้เข้าผ่านมือถือได้อย่างรวดเร็ว ก็จะยิ่งเปิดโอกาสให้คนอยากเข้ามาคลิกดูที่หน้าเพจเราเพิ่มขึ้น

3. Back- Link (แบ็คลิ้งค์)

การทำ back-link นั้น ก็มีความสำคัญ back-link หรือในความหมายแบบง่ายๆ คือ
การที่มีลิ้งค์ของเว็บไซด์เราอยู่ที่เว็บไซด์อื่นโดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน และยังเป็นเครื่องบ่งชี้สำหรับ Google ด้วยว่า เว็บไซด์ของเรานั้น ได้รับการยอมรับ โดยเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง จากการ เอาลิ้งค์ของเราใส่เข้าไปในเว็บไซด์อื่นๆที่เราต้องการจะโปรโมทเว็บ  เมื่อคนได้อ่านคอนเท้นและเกิดความสนใจ ทำให้มีผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์ของเรามากขึ้น

4. Long- Tail Keywords

Long-Tail Keywords คือ keyword ที่มีความเจาะจงเฉพาะสูง
โดยจะเฉพาะเจาะจงลงไปว่า คำๆนั้น มีความหมายว่าอะไร?
ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำเว็บไซด์ควรคำนึงถึง คุณสมบัติของ keywords ประเภทนี้จะประกอบด้วยคำ
หลายๆ คำมารวมกัน ตัวอย่างเช่น

“ MP3 Player” : เป็น keyword กว้างๆ ที่ยังสื่อความหมายไม่ชัดเจนว่าหมายถึงเครื่องเล่น MP3 รุ่นไหน?
“ Apple MP3 Player”: เป็น keyword ที่จะแคบลงมาอีก โดยเจาะจงลงไปว่า เป็นเครื่องเล่น MP3 ของ Apple
“ Apple IPod Touch MP3 Player Space Grey 32Gb”:
เป็นการสื่อถึงความหมายที่ชัดเจน เอามากๆ ว่า เป็นเครื่องเล่น MP3 รุ่นอะไร สีแบบไหน ความจุเครื่องเท่าไหร่ ซึ่ง keyword แบบนี้ ถึงจะเรียกว่า “ long-tail keywords”

5.Publish New Blog Posts (เพิ่มโพสต์)

การอัพเดตและ เผยแพร่ โพสใหม่ๆ จะเป็นการช่วยให้มี อันดับบนเว็บ ที่ดีขึ้นกว่า บทความเก่าๆ

6. Image SEO( ทำ SEO รูปภาพ)

ในการทำ SEO นั้น นอกเหนือจากที่เราจะทำ SEO ในรูปแบบของ text แล้ว เรายังสามารถทำ SEO ในแบบของรูปภาพ ได้เช่นกัน การทำ SEO รูปภาพ นั้น มีประโยชน์อย่างมาก คือ ทำให้ search-engine เค้าเข้าใจถึงรูปภาพที่เราใส่ลงไป และทำให้รูปของเราไปติดในหมวดค้นหา อื่นๆ ได้ เช่น หมวดรูปภาพ บน Google ซึ่งเทคนิคหลักๆคือ ควรใช้รูปภาพที่ถ่ายด้วยตัวเราเอง(ดีกว่ารูปที่ซื้อมา) และ ควรตั้งชื่อรูปภาพที่สื่อความหมายให้ถูกต้อง โดยตั้งเป็น ภาษาอังกฤษ(Toyota-yaris.jpg, lovely-dog.jpg) เป็นต้น

7.Traffic( สร้าง traffic ให้คนเข้าเว็บ)

การสร้างเว็บไซด์ขึ้นมานั้น มีเป้าหมายหลักๆ คือ การทำให้คนภายนอกมีการรับรู้ถึง สินค้า และ บริการ ของเรา โดยผ่านช่องทางเว็บไซด์ที่เราสร้างขึ้นมา การทำ website traffic ก็คือการ ทำให้มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมขมเว็บไซด์ของเราให้มากขึ้น โดยควรให้ความสำคัญกับ 3 traffic หลักๆ ได้แก่ direct traffic, referral traffic, และ search engine traffic

7.1) Direct Traffic:
ทราฟฟิกที่มาจากการเข้าเว็บไซด์โดยตรง และไม่ผ่านการค้นหาใน Google หรือ Social Media โดยมาจากการ พิมพ์เว็บไซด์ URL บน เบราเซอร์, คลิกเข้า link จากไฟล์เอกสารอย่าง Word, Excel หรือแม้กระทั่งคลิกผ่านเว็บที่เราเซฟ bookmark เอาไว้

7.2) Referral Traffic:

ทราฟฟิกอีกประเภทที่คลิกเข้ามาที่เว็บไซด์จาก การคลิก ลิ้งค์ ผ่านเว็บไซด์ อื่นๆ เช่น ตาม โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram), คอมเม้นจากไซด์อื่น, Google Image เป็นต้น

7.3) Search engine Traffic:

ทราฟฟิกที่เชื่อมต่อมาถึงเว็บโดยตรงผ่านการค้นหาใน search engine โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท

7.3.1) Paid Search Traffic: ทราฟฟิกที่มาจากการเสียเงินให้กับ search engine เช่น Google Adwords

7.3.2) Unpaid Search Traffic: ทราฟฟิกที่มาจากการจัดอันดับเว็บบน search engine แบบปกติ ไม่ได้มีการเสียเงินแต่อย่างใด

8. HTTPS

https:// เป็นการเข้ารหัสข้อมูลจากเว็บไซด์ของเรา เป็นการเพิ่มความปลอดภัยเวลาติดต่อสื่อสาร หรือ ส่งข้อมูล กันบน อินเทอร์เน็ต
จะมีจุดสังเกตง่ายๆ ตรงมุมซ้ายบนที่มีรูปตัวล็อกกุญแจข้างๆ https:// การเข้ารหัสนั้น มีผลดีตรงที่ว่า Google จะมองว่าเว็บเรานั้นมีการใส่ใจเรื่องของ ความปลอดภัยของข้อมูล ส่งผลให้การจัดอันดับบน Google ดีขึ้นตามไปด้วย

9.Voice Search (เพิ่มคำสั่งเสียง)

การเข้าถึงเว็บไซด์นั้นมีหลายช่องทาง และ Google ก็ได้มีการสร้างเครื่องมือใหม่ๆ ออกมา อย่างเช่น การค้นหาโดยใช้เสียงของเรา อย่าง “voice search” และ ถ้าเว็บของเรานั้น มีการเพิ่มทางเลือกด้วย คำสั่งเสียง ที่ผู้คนนิยมพูดคำๆนั้นบ่อยๆ ก็จะเป็นผลดีต่ออันดับเว็บเราอีกเช่นกัน

10.Quality not Quantity (คุณภาพมาก่อนปริมาณ)

และปัจจัยสุดท้าย ที่ขาดไม่ได้เลย คือ คุณภาพ ถ้าการจัดรูปแบบองค์ประกอบ ของเว็บไซด์ รวมถึง เนื้อหา, backlink ที่เหมาะสม ดังที่กล่าวมาในข้อก่อนๆ ก็จะทำให้เว็บของเรามีอันดับดีขึ้น แต่! ถ้ามีการเขียนเนื้อหา และใช้จำนวน backlink มากจนเกินไป ก็มีโอกาสที่จะทำให้กลายเป็นเว็บไซด์คุณภาพต่ำไปเลย

รูปภาพ: https://www.unlockmen.com/unlock-potential-boy-wisoot/

สรุป: การทำ SEO ก็เหมือนกับการผลิตสินค้า ไม่มีสินค้าที่ดีที่สุด มีแต่สินค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง เพราะฉะนั้น หน้าที่เราคือ ต้องมีการอัพเดต คอนเท้น และ รูปภาพ ที่สามารถแก้ปัญหาของผู้คน และช่วยเหลือลูกค้าของเราได้

เพิ่มยอดขายของคุณด้วยการทำ SEO