Google ประกาศ “ลดการมองเห็นใน Search Terms Report (STR) ของ Google Ads”

เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท Google ได้ออกมาประกาศ “ลดการมองเห็นใน Search Terms Report (STR) ของ Google Ads” ซึ่งจะแสดงเฉพาะข้อความค้นหาที่มีปริมาณถึงเกณฑ์ที่กูเกิลกำหนดเท่านั้น (Search terms คือ คีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้พิมพ์เพื่อค้นหาเรื่องนั้นๆในกูเกิล)

search terms report

จากการเปลี่ยนแปลงนี้ก่อให้เกิดคำถามในหมู่ผู้ลงโฆษณาและเอเจนซี่ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลอย่างไร? ทำไมจึงเปลี่ยน? และเราจะทำอย่างไรหากต้องปรับปรุงแคมเปญและรักษาผลตอบแทนของ PPC ให้ดีขึ้น? “PPC หรือ Pay Per Click” (ที่เราเข้าใจความหมายตามตัวว่า จ่ายเมื่อคลิก อธิบายคือการปรากฎโฆษณาในหน้าค้นหาของกูเกิลนั้น จะมีค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเข้าไปยังโฆษณานั้นๆเท่านั้น) บทความนี้จะมาตอบคำถามที่ผู้ทำโฆษณา Google Ads อยากรู้

เริ่มจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลง STR เนื่องจากโฆษณาของกูเกิลที่มีคีย์เวิร์ดจำนวนมากอยู่ใน Search Terms อาจมีคนค้นหาบางคีย์เวิร์ดของโฆษณานั้นในปริมาณที่น้อย หรืออาจไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลให้ทุกคลิกที่ไม่เกี่ยวข้องคือการใช้จ่ายโฆษณาโดยเปล่าประโยชน์ กูเกิลจึงออกมาประกาศจะไม่แสดงผลคีย์เวิร์ดที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับโฆษณาใน Search Terms Report เพราะตั้งใจให้การโฆษณามีประสิทธิภาพและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด 

Source: Surfside PPC

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ผู้ลงโฆษณาหลายรายไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของกูเกิล เนื่องจากรายงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำ Google Ads.

และอีกคำถามหนึ่งที่ทำให้ผู้ลงโฆษณาใน Google Ads ยิ่งกังวลไปอีก กับคิดค่า PPC จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า ซึ่งเราได้คำตอบและทางแก้ที่ดีที่สุดจากคุณ Mark Irvine ผู้เชี่ยวชาญด้าน PPC ระดับสูงและผู้อำนวยการด้าน Paid Media ที่ SearchLab มองว่าเรื่องนี้เป็นการให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับโฆษณาจริงๆ ซึ่งเราจะสูญเสียข้อมูลในส่วนนี้ได้มากกว่า15% ที่คุณนำมาพัฒนาโฆษณาของคุณต่อ ในการสูญเสียนี้ Irvine แนะนำให้ผู้ลงโฆษณาพัฒนาต่อโดยการกำหนด Negative Keyword 1 คำ มาป้องกันไม่ให้เสีย 100 คลิกแทนคีย์เวิร์ด 100 คำ ที่เสียแค่หนึ่งคลิก ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบรายงานคำค้นหาจาก Bing ได้ เพื่อหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ และ Negative Keyword มาเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา.

คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพของ Google Ads

แม้ว่า Google ประกาศการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ความเป็นส่วนตัว แต่ผู้ลงโฆษณาจำนวนมากมองว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ และการลดความโปร่งใส โดยการจำกัดอำนาจของผู้ลงโฆษณา

และผลลัพธ์ที่ได้ คือการเปลี่ยนไปใช้การเสนอราคาอัตโนมัติ โฆษณาอัตโนมัติ และการเสนอราคาแบบไม่ใช้คีย์เวิร์ดแสดงให้เห็นว่า Google พยายามให้ผู้ลงโฆษณาควบคุมแคมเปญของตนน้อยลง