Case Study การทำ SEO อย่างง่ายสำหรับมือใหม่

การทำ SEO นั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือการทำ SEO On-Page หรือการปรับแต่งภายในเว็บไซต์ของ และ SEO Off-Page คือการใช้เครื่องมือหรือสิ่งต่างๆนอกเว็บไซต์ในการช่วยให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้น ซึ่งใน Case Study นี้ เราจะเน้นไปที่ SEO On-Page

Singsangnapa.com เป็นเว็บไซต์ WordPress ขายกรอบพระเลี่ยมทอง ซึ่งตัวเว็บไซต์ใหม่ ไม่มีการปรากฏบนผลการค้นหาของ Google โดยสิ่งแรกที่ทีมงานทำคือเตรียมความพร้อมเว็บไซต์สำหรับการเปิดตัวบนผลการค้นหาครั้งแรก โดยเน้นไปที่ Google เครื่องมือค้นหาอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยเป้าหมายหลักคือการติดหน้าแรกของคำค้นหา “กรอบพระเลี่ยมทอง” และ “กรอบพระทองคำ” ซึ่งถือว่าเป็นคำที่มีการแข่งขันไม่สูง คู่แข่งน้อย

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำอันดับเลยคือเนื้อหา ดั่งที่พูดกันติดปากว่า Content is the King ซึ่งโดยรวม เว็บไซต์มีเนื้อหาตรงกับคำค้นหาทั้งสองคำอยู่แล้ว แต่ยังมีความเข้มข้นของคีย์เวิร์ดไม่มาก ทางทีมงาน Ariomaketing จึงเพิ่มเนื้อหาบางส่วนซึ่งช่วยให้เรื่องการให้ข้อมูลแนะนำบริษัทและยังช่วยในเรื่องของ Keyword Density (ความเข้าข้นของคีย์เวิร์ด) อีกด้วย ซึ่งหากสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหาตรงกับสิ่งที่เว็บไซต์เรานำเสนอ ถือว่าเราประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

นอกจากเรื่องเนื้อหาแล้ว การใช้งานเว็บไซต์จะต้องให้ผู้ใช้ ใช้งานได้ลื่นไหล โหลดเร็ว โดยในส่วนนี้เราใช้ https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/ เป็นตัวชี้วัดตามมาตรฐาน Google ซึ่งสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้โดยการย่อ Code หลักๆ คือ HTML, CSS และ Javascript นอกจากนี้ สิ่งที่จะทำให้เว็บเร็วขึ้นคือการปรับแต่งขนาดรูปภาพให้พอดีไม่ใหญ่เกินไป

การเพิ่มคะแนนความเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับโครางสร้างของแต่ละเว็บไซต์ด้วย เช่น เว็บไซต์ singsangnapa.com หากเราทำคะแนนเกินกว่านี้ จะมีผลให้เว็บเพี้ยน รูปภาพหาย

สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆต่อมาคือการเปลี่ยน meta title และ meta description ของหน้าที่เราจะทำอันดับ ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจว่า เว็บไซต์เรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งเราควรใส่คำค้นหาของเราเข้าไปด้วย เพื่ออันดับที่ดีขึ้น                   

งานยากหลังจากนั้นคือ ทำอย่างไรในผู้ใช้เจอเว็บไซต์ของเราในเมื่อเว็บไซต์เป็นเว็บใหม่ ซึ่งการทำนั้นมีหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทบนโซเชี่ยล โฆษณา Google Ads หรือแม่กระทั่งจากการแจกโบรชัวร์โฆษณาสินค้าที่มี Link มายังเว็บไซต์ก็ถือเป็นการโปรโมทอย่างหนึ่ง ซึ่งการวัดผลว่าสิ่งที่เราทำไปจะสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องมีการเก็บสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยเราใช้ Google Analytics เครื่องมือฟรียอดนิยมจาก Google

หลังจากติด Google Analytics แล้ว เราก็พร้อมวัดผลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ตอนนี้ยังไม่ปรากฏบนผลการค้นหา และไม่มี Backlink (คือ Link ของเว็บไซต์ของเราที่อยู่บนโลกออนไลน์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์อื่นๆหรือโซเชียลมีเดีย) ที่จะทำให้ Google รู้ว่ามีเว็บไซต์นี้อยู่บนโลก เราจึงเพิ่ม Google Webmaster tool หรือ Google Search Console เพื่อส่ง Sitemap (แผนที่เว็บไซต์) เพื่อให้ Google ส่ง Bot มา Index (เก็บข้อมูลและส่งขึ้นผลการค้นหา) เว็บไซต์ของเรา

หลังจากส่ง Sitemap ไปได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เว็บไซต์ได้ขึ้นบนผลการค้นหาของทั้งสองคำค้นหาที่หน้า 4 ทีมจึงเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดรายสัปดาห์ และสังเกตได้ว่า อันดับสูงขึ้นเรื่อยๆถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำ SEO Off-Page เลย จึงไม่มีความเสี่ยงที่จะต้องทำเพิ่ม เนื่องจากการกระทำทุกอย่างมีผลให้อันดับ เพิ่มหรือลดลงได้เช่นกัน

เวลาผ่านไป 3 เดือน เว็บไซต์ได้ติดหน้า 1 ทั้งสองคำค้นหา และยังมีคำที่ติดหน้าแรก โดยที่ไม่ได้เจตนาคือคำว่า “กรอบพระสามเหลี่ยม” ซึ่งเป็นคำที่มีอยู่ภายในเว็บไซต์หน้าอื่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

จะเห็นได้ว่า แม้จะไม่มีการทำ SEO Off-Page เลยก็สามารถติดหน้าแรกได้ หากเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการแข่งขันของคำนั้นๆเช่นกัน นอกจากนี้ Google มีการเปลี่ยนแปลง Algorithm หรือกระบวนการคำนวณสิ่งชี้วัดในการจัดอันดับอยู่ตลอดเวลา ปัจจัยแต่ละปัจจัยอาจถูกลดหรือเพิ่มความสำคัญลง แต่สิ่งที่สำคัญอยู่เสมอเลยคือเนื้อหา เพราะ Content is The True King