NFT ย่อมาจาก “Non-Fungible Token” หรือ “สินทรัพย์ ที่ไม่สามารถทดแทนกันได้” อย่างไรก็ตาม แค่การ แปลความหมายของชื่อยังไม่สามารถ บอกได้มากนัก ว่า NFT คือ อะไร ในครั้งนี้ ArioMarketing จะมาบอกถึง ความหมายของ NFT ในเชิงนามธรรม พร้อมทั้ง ยกตัวอย่าง ทั้ง NFT และ การใช้งาน NFT
NFT คือ “Cryptocurrency” ประเภทหนึ่ง ใช้เพื่อ แสดงความเป็น “เจ้าของ” ของสินทรัพย์ดิจิตอล นั้นๆ โดยแต่ละ “โทเคน” จะมี ความแตกต่างกัน มูลค่าไม่เท่ากัน และ NFT อื่นๆ ไม่สามารถ ใช้ทดแทนกันได้
เปรียบเทียบ ให้เข้าใจ อย่างง่าย ให้ลองเปรียบว่า NFT คือ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง เมื่อเรา ให้ผู้ใช้งานคนอื่น หยิบยืม คอมพิวเตอร์ เครื่องดังกล่าวไป ก็จะต้องนำ คอมพิวเตอร์เครื่องเดิม มาคืนเท่านั้น ไม่สามารถ เอาเครื่องอื่นมาคืนแทน แม้จะเป็น เครื่องรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ก็ยังมี ความแตกต่างภายในเครื่อง การจัดวางไฟล์ต่างๆ ไม่เหมือนกัน มูลค่า ไม่เท่ากันอยู่ดี
เมื่อเทียบกับ Cryptocurrency อื่นๆ ที่ สามารถทดแทนกันได้ (Fungible Token) อย่าง Bitcoin หากมีการยืม Bitcoin ไปแล้ว เมื่อต้องการจะคืน ก็สามารถเอา Bitcoin เหรียญอื่น มาคืนได้ เพราะทุกๆโทเคน มีความเหมือนๆกัน ไม่แตกต่างกัน
ด้วยความที่ การครอบครอง NFT คือ การแสดงความเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินนั้นๆ จึงทำให้ ไม่สามารถแบ่ง ซื้อขายเป็นหน่วยย่อยได้ เหมือน Cryptocurrency อื่นๆ เพราะ สมมุติว่า NFT โทเคนนั้น แทนภาพๆหนึ่ง การซื้อขายภาพ แค่ครึ่งภาพ หรือ แค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ย่อมไม่สามารถทำได้
ในปัจจุบัน NFT มักถูกใช้กับ สิ่งของหายาก และเป็นที่นิยมที่สุดใน “วงการศิลปะ” เช่น เมื่อศิลปิน วาด หรือ รังสรรค์ ผลงานออกมา ก็สามารถ นำผลงานออกมา เป็น NFT เพื่อ ขายให้กับ ผู้ที่สนใจได้
หรือในวงการ สตรีมเมอร์ และ Youtuber ก็มีการใช้ NFT เพื่อเข้าร่วม กรุ๊ปเฉพาะของแฟนคลับ เท่านั้น ซึ่งก็อาจทำออกมา อย่างมีจำนวนจำกัด เช่น จำกัดเพียง 100 NFT เท่านั้น สำหรับใคร ที่อยากเข้าถึง Youtuber ที่ตัวเองชื่นชอบ ได้มากกว่าที่เคย ก็จำเป็นจะต้อง หา/ซื้อ NFT นั้น มาครอบครองเพื่อเข้ากรุ๊ปนั้นให้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของ NFT ทำให้ในตอนนี้ NFT ยังถูกใช้ในการยืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เป็น “ดิจิตอล” เท่านั้น ยังไม่พบว่ามีการใช้ NFT กับวัตถุบนโลกจริงมากนัก
ในกรณีที่ เราต้องการซื้อที่ดิน สิ่งที่จะบ่งบอก และ ยืนยันว่า เรา เป็นเจ้าของที่ดินนั้น ก็คือ “โฉนดที่ดิน” ที่เราจะได้กลับมา หลังจากการ ซื้อขาย ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ว่าเป็นของจริง หรือไม่ โดยตรวจสอบกับกรมที่ดิน หากเป็นของจริง ก็สามารถซื้อขายได้เลย และ สำหรับ NFT นั้น ตัวโทเคน ก็คือ โฉนดที่ใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ในระบบ Blockchain ที่ดูแลระบบ Cryptocurrency ทุกเหรียญ เพื่อความโปร่งใส ในการทำธุรกรรมต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ด้วยความที่ NFT นั้น ถูกออกแบบมา สำหรับคนเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะคน ที่เห็นมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิตอล ด้วยเหตุนั้น การที่จะเป็นที่นิยม และ ถูกยอมรับในวงกว้าง จนสามารถใช้กับทรัพย์สินอื่นในวงกว้างได้ จึงยังเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ การใช้ NFT ก็มีข้อควรระวัง ด้วยเช่นกัน เพราะการ “แสดงความเป็นเจ้าของ” ของ NFT นั้น ผู้ถือครองจะต้องตรวจสอบจนแน่ใจว่า มีสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นๆขนาดไหน เช่น NFT ที่เป็นตัวแทนของบางภาพศิลปะ อาจอนุญาตให้ผู้ถือครองนำภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เช่น สกรีนเสื้อขายได้ ในขณะที่บาง NFT อาจไม่อนุญาตให้นำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ได้ สิทธิ์ดังกล่าว จะยังอยู่กับผู้ผลิตผลงานเช่นเดิม เช่นเดียวกับการซื้อสินค้าที่สามารถนำมาใช้งานได้ แต่ไม่สามารถผลิตซ้ำได้ นั่นเอง
รวมสาระน่ารู้ด้านการตลาดออนไลน์ พร้อมเรื่องราวที่น่าสนใจ ทางทีม ArioMarketing ได้คัดสรรและรวบรวมมาไว้เพื่อคุณโดยเฉพาะ
(+66) 02-026-3302
Official Line: @ArioMarketing
info@ariomarketing.com
Thailand:
7/2 อาคารลิขิต ชั้น 7, ลาดพร้าวซอย 23, จันทรเกษม, จตุจักร, กรุงเทพมหานคร 10900
THE UK:
Flat 1, 88 Blackburn Rd, Sheffield,
Rotherham S61 2DR, United Kingdom
(+44) 7799496724
ArioMarketing คือหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่เป็น Google Premier Partner ในประเทศไทย และมอบความพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าของเรา
