Home - E-Commerce ลู่ทางของธุรกิจออนไลน์ที่คุ้มค่าน่าลงทุน
ในช่วงวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาเกิดเทรนด์ E-Commerce ที่หลายคนรู้จักกันดีในช่วง Work From Home หรือ Quarantine กับกิจกรรมซื้อ-ขายออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นสั่งอาหาร เครื่องดื่มผ่านแอปพลิเคชั่น เสื้อผ้าผ่านการไลฟ์สด หรือแม้กระทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน สินค้ายอดนิยมที่หลายคนต่างพากันสั่งซื้อผ่าน Shopee Lazada และ JD central อย่างถล่มทลาย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซในธุรกิจออนไลน์ที่หลายธุรกิจทั้งน้อยใหญ่หันมาสนใจ และมุ่งที่จะลงทุนกับธุรกิจ E-Commerce เพราะสิ่งที่โดดเด่นสุดคือ “ลงทุนน้อย แต่กำไรงาม”
มาเรียนรู้การทำสร้างรายได้จาก E-Commerce ให้ปังกับเรา
E-Commerce ย่อมาจาก Electronic Commerce แปลตามตัวได้ว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” ความหมายของคำนี้ได้ถูกหลายองค์กรจำกัดความ ซึ่งมีดังนี้.
E-Commerce คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ศูนย์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2542)
E-Commerce คือ การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (World Trade Organization: WTO, 1998)
E-Commerce คือ ธุรกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งในระดับองค์กรและส่วนบุคคล บนพื้นฐานของ การประมวลและการส่งข้อมูลดิจิทัลที่มีทั้งข้อความ เสียง และภาพ (OECD, 1997)
E-Commerce หรือ กิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่ดำเนินการโดยมีการแลกเปลี่ยน เก็บรักษา หรือสื่อสารข้อมูลข่าวสาร โดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อีเมล์ และอื่น ๆ (Hill, 1997)
E-Commerce หรือ การใช้วิธีการอิเล็กทรอนิกส์ในการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น EDI การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การประมูลอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีการสื่อสารคมนาคมอื่น ๆ โทรทัศน์และการใช้อินเทอร์เน็ต (Palmer, 1997)
E-Commerce หรือ การซื้อขายสินค้า บริการ และสารสนเทศผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต (Turban et al, 2000)
สรุปคร่าว ๆ คือ การค้าขายผ่านสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อโลกอินเตอร์เน็ตได้ เพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้สามารถทำการค้าได้สะดวก
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายขนาดใหญ่ทั่วโลก ฐานผู้ซื้อขยายกว้างขึ้น
3. คุณสามารถทำการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงและเปิดได้ทุกวันโดยไม่วันหยุด
4. คุณไม่มีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานขายเพราะเจ้า E-Commerce จะทำการค้าแบบอัตโนมัติให้คุณ ไม่ต้องมีสินค้าคงคลังหรือมีก็น้อยมาก
5. คุณไม่มีความจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างตึกแถว เพื่อใช้เป็นร้านค้า เพียงแค่สร้างเว็บไซต์ E-Commerce ก็เปรียบเสมือนร้านค้าของคุณแล้ว ไม่ต้องเสี่ยงกับทำเลที่ตั้งของร้านค้า
6. E-Commerce สามารถเก็บเงิน และนำเงินฝากเข้าบัญชี ให้คุณโดยอัตโนมัติ
1. ความเสี่ยงจากการที่ยังไม่มีกฎหมายมารองรับการค้าแบบ E-Commerce เพราะฉะนั้นเราควรเขียนคำบรรยายถึงขอบเขตในการรับผิดชอบของเราทีมีต่อลูกค้าให้ชัดเจน เช่น ซื้อสินค้าแล้วไม่รับคืนก็ต้องแจ้งลูกค้าให้เข้าใจ
2. ไม่มีการกำหนดมาตรฐานในด้านภาษีเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายมารองรับ
3. ปัญหาในการจัดส่งสินค้าที่ไม่สะดวกรวดเร็ว หรือสินค้าชำรุดเสียหาย ซึ่งได้แก่ พวกสินค้าที่เป็นของสด เช่น อาหาร หรือดอกไม้ สินค้าเหล่านี้ อาจเสียหาย หรือเสื่อมสภาพ เน่าเสีย จากระยะเวลา ในการขนส่งได้
4. ปัญหาจากการขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงเช่น อัญมณีต่างๆ บริษัทขนส่งมักจะไม่ยินดีที่จะรับส่งของเหล่านี้ เนื่องจากโอกาสสูญหายได้ง่าย
5. การทุจริตฉ้อโกง เช่น การปลอมบัตรเครดิต
6. ไม่แน่ใจผู้ขายเป็นผู้ประกอบการที่ปฏิบัติธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และน่าเชื่อถือเพียงใด
7. ทำสัญญาซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
8. ผู้ขายยังไม่มั่นใจว่าตัวตนจริงของลูกค้าจะเป็นบุคคลคนเดียวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ นั่นคือผู้ขายไม่มั่นใจว่า ผู้ซื้อมีความสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการหรือไม่
*ที่มา : หนังสือก้าวสู่ความเป็นผู้ประกอบการโดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
อี-คอมเมิร์ซอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ของการทำธุรกิจออนไลน์ที่คุ้มค่าน่าลงทุน เพราะด้วยไลฟ์สไตล์ปัจจุบันการซื้อขายในโลกอินเตอร์กลายเป็นอวัยวะที่ 33 ที่มีจุดเด่นคือ สะดวก ประหยัด และรวดเร็ว ข้อดีที่หลายคนเลือกช่องทางนี้มากกว่าออกมาจับจ่ายหน้าร้าน ตลาด ห้องสรรพสินค้า
และถ้าคุณสนใจทำ E-Commerce สามารถปรึกษาเราได้ฟรี
(+66) 02-026-3302
Official Line: @ArioMarketing
info@ariomarketing.com
Thailand:
7/2 อาคารลิขิต ชั้น 7, ลาดพร้าวซอย 23, จันทรเกษม, จตุจักร, กรุงเทพมหานคร 10900
THE UK:
Flat 1, 88 Blackburn Rd, Sheffield,
Rotherham S61 2DR, United Kingdom
(+44) 7799496724