ในโลกของการตลาดดิจิทัลยุคใหม่ การสร้างเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ให้ติดอันดับในหน้าผลการค้นหาของ Google ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามของเว็บไซต์หรือจำนวนบทความที่มากที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ “คีย์เวิร์ด” หรือคำค้นหาที่ผู้ใช้งานพิมพ์ลงไปในช่องค้นหา เพื่อหาข้อมูล สินค้า หรือบริการที่ต้องการ การเข้าใจว่า SEO Keyword คืออะไร และสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง จึงเป็นรากฐานสำคัญของการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ
SEO Keyword คือ คำหรือวลีที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้เพื่อค้นหาข้อมูลในเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing หรือ Yahoo โดยเว็บไซต์ที่ต้องการให้ติดอันดับในหน้าแรกของผลการค้นหาควรมีการใส่คีย์เวิร์ดเหล่านี้อย่างเหมาะสมภายในบทความ เพื่อให้ระบบอัลกอริทึมของเสิร์ชเอนจินเข้าใจว่า เนื้อหาของเว็บไซต์นั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ค้นหากำลังมองหา
ตัวอย่างเช่น หากคุณทำเว็บไซต์ขายกาแฟและเลือกใช้คีย์เวิร์ดหลักว่า “เมล็ดกาแฟคั่วสด” เมื่อผู้ใช้พิมพ์คำนี้ลงใน Google เว็บไซต์ของคุณก็มีโอกาสปรากฏบนหน้าแรกได้ หากมีการจัดวางคีย์เวิร์ดอย่างถูกต้องและมีเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ค้นหาได้อย่างแท้จริง
คีย์เวิร์ดที่ดีไม่เพียงช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น ว่าพวกเขากำลังค้นหาอะไร มีความสนใจแบบไหน และอยู่ในขั้นตอนใดของการตัดสินใจ เช่น ต้องการข้อมูลทั่วไป ต้องการเปรียบเทียบ หรือพร้อมจะซื้อ
เพื่อให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าใจว่าคีย์เวิร์ดไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว แต่แบ่งออกได้หลายรูปแบบตามเจตนาของผู้ค้นหาและระดับความเฉพาะเจาะจงของคำ ซึ่งแต่ละประเภทมีบทบาทต่างกัน ดังนี้
เป็นคำค้นหาที่มีเพียง 1–2 คำ เช่น “กล้อง”, “รองเท้า”, “ท่องเที่ยว” คำเหล่านี้มีจำนวนการค้นหาสูงมาก เพราะคนทั่วไปนิยมใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันสูงมาก เว็บไซต์ใหม่หรือธุรกิจขนาดเล็กอาจยากที่จะติดอันดับได้หากใช้คีย์เวิร์ดเหล่านี้เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม คีย์เวิร์ดสั้นเหมาะสำหรับใช้สร้างการรับรู้แบรนด์ในระยะยาว เพราะสามารถดึงดูดผู้เข้าชมจำนวนมากได้ แม้จะไม่เฉพาะเจาะจงก็ตาม
คีย์เวิร์ดประเภทนี้มักประกอบด้วย 3–5 คำขึ้นไป เช่น “ร้านกาแฟบรรยากาศดีใกล้สยาม” หรือ “รองเท้าวิ่งผู้หญิงสำหรับมาราธอน” แม้จะมีจำนวนการค้นหาน้อยกว่า แต่เป็นคำที่มีความตั้งใจสูง (High Intent Keyword) ผู้ค้นหามักรู้แล้วว่าต้องการอะไร ดังนั้นโอกาสในการแปลงเป็นยอดขายหรือการสมัครสมาชิกจึงมีมากกว่า
การใช้คีย์เวิร์ดยาวจึงเป็นกลยุทธ์ที่นิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับธุรกิจเฉพาะทาง หรือเว็บไซต์ที่ต้องการเน้นคุณภาพของผู้เข้าชมมากกว่าปริมาณ
คือคำที่มีความหมายหรือบริบทใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลัก เช่น หากคีย์เวิร์ดหลักคือ “กล้องถ่ายรูป” LSI Keyword อาจเป็นคำว่า “เลนส์กล้อง”, “กล้อง DSLR”, “กล้อง mirrorless” การแทรกคำเหล่านี้ในบทความช่วยให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของคุณมีความลึกและครอบคลุม
Google ชื่นชอบบทความที่ไม่ได้ยึดติดกับคำซ้ำๆ แต่มีบริบทหลากหลายที่สอดคล้องกับหัวข้อหลัก เพราะสะท้อนว่าเว็บไซต์นั้นให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านจริง
เป็นคีย์เวิร์ดที่แสดงถึงเจตนาในการ “ซื้อ” อย่างชัดเจน เช่น “ซื้อไอโฟน 15 ออนไลน์”, “สมัครคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น” หรือ “จองโรงแรมราคาถูกในเชียงใหม่” ผู้ค้นหากลุ่มนี้มักอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินใจซื้อ ซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างยอดขายโดยตรง
การใช้คีย์เวิร์ดแบบ Transactional ควรใช้ในหน้าสินค้า หน้ารับจอง หรือ Landing Page เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
คีย์เวิร์ดประเภทนี้มักขึ้นต้นด้วยคำถาม เช่น “seo keyword คืออะไร”, “วิธีปลูกต้นไม้ในกระถาง”, “ทำไมต้องออกกำลังกายตอนเช้า” ผู้ค้นหาต้องการคำตอบหรือความรู้เพิ่มเติม เหมาะสำหรับใช้ในบทความให้ความรู้หรือบล็อก
แม้ผู้ค้นหากลุ่มนี้ยังไม่พร้อมซื้อทันที แต่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าในอนาคตได้ หากคุณให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือ
เป็นคำค้นหาที่ผู้ใช้ต้องการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแบรนด์โดยตรง เช่น “Facebook login”, “Shopee Thailand”, “Apple Store” คำเหล่านี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Keyword Research เป็นกระบวนการค้นหา วิเคราะห์ และคัดเลือกคำค้นหา (Keywords) ที่ผู้คนใช้ในเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing หรือ YouTube เพื่อให้เข้าใจว่า “ผู้ใช้ต้องการอะไร” และ “พวกเขาใช้คำแบบไหนในการค้นหา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Keyword Research เป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดของการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพราะช่วยให้คุณรู้ว่าควรสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ใช้คำแบบไหนถึงจะตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับในหน้าผลการค้นหามากที่สุด
การเลือกคีย์เวิร์ดเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการทำ SEO เพราะหากเลือกผิดตั้งแต่ต้น จะทำให้เนื้อหาทั้งหมดไม่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง มาดูแนวทางการเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องกัน
เริ่มจากการเข้าใจกลุ่มลูกค้าของคุณ เช่น อายุ ความสนใจ ปัญหาที่เขาต้องการแก้ และคำที่เขามักใช้ค้นหาข้อมูล วิธีนี้จะช่วยให้คุณเลือกคีย์เวิร์ดที่ตอบโจทย์และเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจุด
ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้คุณหาคำค้นหาที่เหมาะสม เช่น
การศึกษาคู่แข่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผล คุณสามารถดูว่าคู่แข่งของคุณใช้คีย์เวิร์ดอะไร เว็บไซต์ของเขาติดอันดับเพราะอะไร และเนื้อหาแบบไหนที่ดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด
คีย์เวิร์ดหลักควรเป็นคำที่สะท้อนหัวข้อหลักของหน้า เช่น “seo keyword คือ” ส่วนคีย์เวิร์ดรองอาจเป็นคำใกล้เคียงหรือขยายความ เช่น “ประเภทของคีย์เวิร์ด SEO”, “คู่มือเลือกคีย์เวิร์ด SEO” เพื่อเพิ่มโอกาสให้ Google เข้าใจเนื้อหามากขึ้น ซึ่งการเลือกใช้บริการรับทำ SEO จากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยคุณให้วางแผนได้อย่างรอบคอบ
ตำแหน่งที่ควรใส่คีย์เวิร์ดได้แก่
แต่ควรใส่ในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียด เพราะ Google สามารถตรวจจับ “Keyword Stuffing” ได้ และอาจลดอันดับเว็บไซต์ของคุณ
เทคนิคเสริมการใช้คีย์เวิร์ดให้ได้ผลจริง ที่ควรนำไปปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า การอัปเดตคีย์เวิร์ดให้ทันสมัย การใช้คีย์เวิร์ดเชิงพื้นที่ หรือการกระจายคีย์เวิร์ดในหลายรูปแบบของคอนเทนต์ มีดังนี้
การรู้ว่า SEO Keyword คือ อะไร และเข้าใจประเภทต่างๆ ของมัน จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่มีทิศทางและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย
อย่าลืมว่า การทำ SEO ไม่ได้แข่งกันที่ใครใช้คีย์เวิร์ดมากกว่า แต่แข่งกันที่ใคร “เข้าใจผู้ใช้” และ “ตอบโจทย์ความต้องการ” ได้ดีกว่าต่างหาก
ArioMarketing เอเจนซี่การตลาดออนไลน์ เราเข้าใจดีว่า SEO Keyword คือ ก้าวแรกของการทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้ว่า SEO Keyword คือ อะไร และเข้าใจประเภทต่างๆ ของมัน จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่มีทิศทางและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย
SEO Keyword คือ คำหรือวลีที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพิมพ์ลงในเครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อค้นหาข้อมูล สินค้า หรือบริการ เว็บไซต์ที่มีการใช้คีย์เวิร์ดอย่างถูกต้องจะมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น การเข้าใจและเลือกคีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสมช่วยให้เนื้อหาของคุณตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา สร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ในระยะยาว
คีย์เวิร์ด SEO แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามเจตนาของผู้ค้นหา เช่น
ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่
ArioMarketing เข้าใจว่า SEO Keyword คือ ก้าวแรกของการทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ เราช่วยให้คุณรู้ว่า SEO Keyword คืออะไร มีกี่ประเภท และวิธีเลือกใช้คีย์เวิร์ดอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มโอกาสติดอันดับ และสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์ระยะยาว สนใจร่วมงาน ติดต่อเราได้เลยตอนนี้!